หลายองค์กรประเมินผลงานบุคลากรกันเป็นรายปี แต่ว่าก็มีบางพื้นที่จัดกันปีละ 2 ครั้ง
เพื่อตรวจเช็คลักษณะการทำงานของ
พนักงาน (https://freelydays.com/13385/) รวมถึงความคิด
ซึ่งมิได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความพอใจ จากการตอบคำถาม "ถูก" หรือ "ผิด" ที่สำคัญ
สิ่งที่ได้บอกออกไปในระหว่างการประเมินบางครั้งอาจจะสร้างสรรค์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว
แต่บางบริษัทคิดว่าการวัดผลงานที่มีเป็นประจำทุกปีเกิดเรื่องโบราณ
เนื่องจากผู้ว่าจ้างควรจะประเมินเรื่องอื่นๆทั้งยังสมรรถนะสำหรับการดำเนินการ
การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนกระทั่งทัศนคติ ทำให้หลากหลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาถอยกลับ
หรือฟีดแบ็กรวมทั้งระบบการสอนงาน หรือผู้ฝึกสอนชิ่งแทน แม้กระนั้นไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด
สิ่งสำคัญคือบุคลากรจะต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และมี 5 ประโยคที่ไม่สมควรเอ่ยออกมา เพราะว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผลลบมากกว่า
ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงหัวข้อนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"
ประโยคนี้นอกเหนือจากการที่จะทำให้เห็นว่า ผู้พูดจะต้องปรับปรุงแก้ไขมารยาทไม่ให้พูดโพล่งออกมาแล้ว
ควรจำไว้เหตุว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description
มิได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำทั้งผอง 100% แถมยังจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตามสภาพธุรกิจอีกด้วย
นายจ้างถูกใจบุคลากรที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับงานหลายๆอย่าง
ด้วยทัศนคติเชิงบวก แต่ว่าถ้าเกิดต้องการสะท้อนถึงสิ่งที่ต้องการที่มากเกินไปของนายจ้าง
ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน ได้แก่ "งานเดิมที่กำหนดเส้น ต า ย เอาไว้
ทำให้ยังไม่มีจังหวะทำหน้าที่เพิ่มเติมอีก" หรืออธิบายว่า
คุณไม่สมควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เนื่องจากว่ามีคนอื่นๆที่เหมาะสมอย่างยิ่งกว่า
"คุณคาดหวังจากฉันมากเกินไป"
แน่ๆว่า ผู้ว่าจ้างย่อมคาดหวังหลายเรื่อง
ซึ่งอาจจะทำให้บุคลากรมีความคิดว่าดำเนินการเกินค่าจ้างที่ได้รับ
แม้กระนั้นการปกป้องตนเองมากเกินไปก็บางทีก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่เยี่ยมที่สุด
โดยเหตุนี้ การงดทนแล้วก็ควบคุมอารมณ์เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร
ด้วยเหตุว่าการแสดงอารมณ์ออกมาอาจมิได้ทำให้อะไรดีขึ้น
"ฉันทำไม่ได้"
การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นความจำกัด ซึ่งนอกจากผู้พูดจะจำกัดความคิดของตัวเอง
เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองสามารถทำเป็นแล้ว ยังให้ความหมายคิดของคนอื่น
รวมทั้งเจ้านายเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจของผู้พูดด้วย
การพูดประโยคนี้พอๆกับบอกผู้ว่าจ้างว่า คุณไม่มีทักษะที่จะดำเนินงานให้เสร็จได้
และก็หากตอบห้วนๆก็บางทีอาจแปลได้ว่า คุณไม่เพียรพยายามจะทำความเข้าใจ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียเข้าไปอีก
โดยเหตุนี้จำเป็นต้องเลี่ยงไปใช้คำกล่าวอื่นๆตัวอย่างเช่น "พวกเราจะทดลองทำเช่นไรดี"
หรือ "นี่เป็นข้อเสนอที่ดี มอบโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้เสร็จด้วยคน"
ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตนเองได้
"ขอบพระคุณที่สังเกตเห็นสุดท้าย"
การได้รับคำชื่นชมสำหรับการประมวลผลงานนับเป็นความเสร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ
แต่ก็ไม่สมควรหลงระเริงกับคำกล่าวชมเชยนั้น หากไม่สามารถที่จะต่อกรได้ดีพอ ยกตัวอย่างเช่น การกล่าวคำชนิดว่า
"ขอบคุณมากที่มองเห็นท้ายที่สุด" จะก่อให้บรรยากาศกลับอึดอัด
และอาจจะก่อให้นายจ้างไม่ชื่นชอบคุณอีกในอนาคต แค่ขอบพระคุณ
หรือชี้แจงถึงความพยายามที่ยาวนานกว่าจะสำเร็จก็คงจะพอเพียงแล้ว
"มิได้ขี้คร้านนะ ก็แค่ไม่แคร์เท่านั้นเอง"
นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "สถานที่ทำงาน สเปซ" แต่ว่าถ้านายไม่ได้รู้จัก
สถานการณ์ข้างหลังกล่าวประโยคนี้ก็จะเชิญอึดอัด โดยเฉพาะเมื่อนายมองหน้าเพื่อ
ให้อธิบายถึงคำบอกเล่าดังที่กล่าวมาข้างต้นที่แสดงถึงความไม่ถูกใจ
ทราบเทคนิค 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเทดำเนินการให้สุดกำลัง
เวลาวัดผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบสุขใจ
เผื่อได้ปรับเงินเดือนสูงขึ้น แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ คนใดกันจะไปรู้!
มารยาท
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/