เผยเคล็ดลับ สัมผัสความอร่อยระดับตำนานของ Wagyu : ถอดรหัสคุณภาพ

[Beer625]

Wagyu Beef ขึ้นชื่อว่า   เป็นที่ยอมรับว่า เป็นเนื้อคุณภาพสูง  รสชาติอร่อย   แต่รู้หรือไม่ว่าเนื้อ Wagyu ยัง แบ่งออกเป็น  หลายเกรด  ซึ่ง บ่งบอกถึง  คุณภาพและรสสัมผัสที่แตกต่างกัน

บทความนี้พาไป  ทำความเข้าใจ  เกรดเนื้อ Wagyu  พร้อม เผยวิธี  การเลือกให้เหมาะกับการปรุงอาหาร 

ไขปริศนา  ระบบการจัดเกรด Wagyu

ประเทศญี่ปุ่นใช้มาตรฐาน JMGA   แยกประเภท เกรดเนื้อ Wagyu ออกเป็นตัวอักษรและตัวเลข เช่น A5, A4, B5  โดย

ตัวอักษร (Yield Grade):
   แสดงให้เห็น  ถึงปริมาณเนื้อที่ได้  โดย A คือเกรด สูงสุด
ตัวเลข (Quality Grade):
   แสดงถึง  คุณภาพเนื้อ  โดย 5 คือเกรด  คุณภาพสูงสุด

4 ปัจจัยหลักในการ  ตรวจสอบ  คุณภาพ Wagyu Beef

1. ลายไขมัน (Marbling):
  ลายไขมัน แทรก  สม่ำเสมอ  ยิ่งมาก  เนื้อยิ่งนุ่ม รสชาติกลมกล่อม
2. สีของเนื้อ (Color & Brightness):
ควรเป็นสี  แดงสดหรือแดงเข้ม  บ่งบอก  ถึงความสดใหม่
3. ความแน่นของเนื้อ (Firmness & Texture):
  ควร  มีความแน่นและละเอียด  เกิดความ  สมดุลกัน
4. สีและความมันวาวของไขมัน (Color, Luster & Quality of Fat):
 ไขมัน   เหมาะที่จะ มีสีขาวหรือเหลืองอ่อน    พร้อมกับ เป็นมันวาว

  วิเคราะห์ คุณลักษณะของแต่ละเกรด Wagyu

A5:เกรด   ท็อป   ลายไขมันกระจายทั่วทั้งชิ้น  เนื้อนุ่มละลายในปาก  รสชาติหวานละมุน
A4: คุณภาพ   เลิศ  ลายไขมันสวยงาม  เนื้อนุ่ม  แต่ไม่ละลายเท่า 
A5  รสชาติ เข้มข้น  กว่า
A3:คุณภาพ   น่าประทับใจ   ลายไขมันปานกลาง  เนื้อนุ่มปานกลาง  เหมาะสำหรับคนชอบรสชาติ   ไม่เลี่ยน
Half Blood (F1): เนื้อวัว ลูกผสม   ลักษณะคล้าย A3  แต่เนื้อ   มีความแน่น กว่า  ไขมันน้อยกว่า

  แมทช์ เกรดเนื้อ Wagyu ให้เหมาะกับเมนู

A5:
เหมาะกับ  การย่างหรือต้มแบบเน้นความนุ่ม  เช่น สเต็ก ชาบู
A4:
เหมาะกับ  การย่างแบบต้องการรสชาติเข้มข้น  เช่น ปิ้งย่าง BBQ แบบญี่ปุ่น
A3:
 เหมาะกับ  การทำอาหารที่ต้องการความแน่นของเนื้อ  เช่น ผัด ซุป
F1:
  เหมาะสำหรับ  คนไม่ชอบเนื้อรสชาติเข้มข้นหรือไขมันเยอะ

เนื้อ Wagyu แต่ละเกรดผ่านการ เลี้ยงดู  และ   ตรวจสอบ คุณภาพอย่างดี  จึงมีราคา สูง   แต่ รับรอง  ว่าคุ้มค่ากับรสชาติและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เลือกซื้อเนื้อวากิว ได้ที่ https://shop.villamarket.com/catalog/Beef/Best%20Value%20Import/All