การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน

[Fern751]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแดด โดยที่จะจะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่พอดี เพื่อลดอุณภูเขาไม่ข้างนอกใกล้บริเวณบ้านและก็ ป้องกันลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากเกินความจำเป็น โดยควรปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกแล้วก็ ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะทำการเลือกจำพวกต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามท้องถิ่นยกตัวอย่างเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา เนื่องมาจากต้นไม้พวกนี้มีความเคยชินกับสภาพภูมิประเทศ และอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูมิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน ทำน้ำตกจำลอง ฯลฯ

4. ถมดินรอบๆรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นรวมทั้งฝาผนังเล็กน้อยต่ำยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ แล้วก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน



5. ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด บางทีอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และก็ลดความแรงของแสงแดดที่ ส่องผิวตึก



6. ทำรางน้ำแล้วก็ท่อที่มีไว้ระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆด้านในบ้านให้ สมควร เพื่อคุ้มครองปกป้องความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรืออาจจะทำท่อระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าหากอยากได้ทำที่หยุดรถยนต์ ควรจะทำที่หยุดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและผนัง โดยความหนาของฉนวนที่ใช้จำต้อง ขึ้นกับภาระหน้าที่ทำความเย็น แต่ส่วนมากใช้ฉนวนที่มีความครึ้มประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งฝาผนังมีหลายแบบ ดังเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกทาสีผนังข้างนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันและก็กันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนก้าวหน้า

10. สำหรับฝาผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานกลับซึ่งสามารถควบคุมจำนวนลมได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นจะต้องเพียงแค่นั้น โดยให้พอเพียงสำหรับในการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ แล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งด้านทิศตะวันออกและตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวนอนเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือแล้วก็ทิศใต้ เนื่องจากว่าสามารถบังแสงอาทิตย์ในตอนเที่ยงตรงแล้วก็ตอน บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านบริเวณหน้าต่างกระจก เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าภายในตัวบ้าน ส่วนการติดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้จะปกป้อง ความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ดียิ่งไปกว่า แม้กระนั้นรายจ่ายสูงยิ่งกว่าจึงไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบ

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่รอบๆชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง จะต้องมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อป้องกันการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. จัดตั้งพัดลมสำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ด้านนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งทานอาหารว่างหรือใช้ทำอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. อุดรอยรั่วด้วยปูนซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องจัดตั้งตะเกียง ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดแจงไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองป้องกันความ ร้อนจากข้างนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. ทิศเหนืออยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนและความชุ่มชื้นจากข้างนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้แล้วก็ชั้นสำหรับเพื่อวางของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่ขวางกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสงสว่าง

20. จัดวางโต๊ะที่มีไว้สำหรับใช้ในการเขียนหนังสือให้หันหน้าไปในฝาผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลทำความสะอาด พรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เฉอะแฉะ เพื่อลดภาระทำความเย็นเพราะความร้อนแอบแฝง



22. แยกห้องใช้สอยโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ตอนเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบจะทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เพราะว่าจะเย็นสบายที่สุด ได้แก่ ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจะจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ รวมทั้งจะต้องไม่มีเครื่องกีดขวางทางลมเข้าและก็ออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่สมควรที่จะจัดตั้งคอนเดนเซอร์เยอะที่สุด แม้กระนั้นถ้าเกิดไม่ สามารถจัดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสบาย แล้วก็ใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาภายในห้อง



25. ควรจะจัดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสม คือ ไม่ควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง เนื่องจากจะก่อให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด แล้วก็ควรติดตั้งในรอบๆที่มีความสามารถในการอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายรวมทั้ง รวมทั้งสบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยากได้

26. ควรจะติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศรวมทั้งเปิดเตียน ได้แก่ ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนรวมทั้งลดความชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มนี้ แต่ถ้าเกิดจะต้องติดตั้งในห้องปิด ควรจะจำต้องติด ตั้งพัดลมที่ใช้ในการระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองป้องกันการสะสมความร้อนและความชุ่มชื้นข้างในห้อง



27. พิจารณาทำครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ถ้าเลี่ยงมิได้ครัวที่อยู่ ด้านในตัวบ้านควรจะมีการระบายความร้อนที่ดี เนื่องจากว่าครัวมักมี เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแบบ อย่างเช่น เตาอบ เตาหุงหาอาหาร การ้อน ตู้แช่เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. ติดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำการหุงหาอาหารและอากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรจะมาจากด้านนอกบ้านไม่ควรใช้อากาศ เย็นจากแอร์โดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องมือรวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง นอกจากจะอดออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย ดังเช่นว่า ใช้ตู้แช่เย็นประสิทธิภาพสูง ใช้หลอดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เป็นต้น

[Chanapot]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Prichas]

 ดันกระทู้

[Chigaru]

 ดันกระทู้

[Panitsupa]

 ดันกระทู้

[Panitsupa]

 ดันกระทู้

[Chanapot]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Naprapats]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[kaidee20]

ดันๆ

[Chanapot]

ดันๆ

[dsmol19]

 ดันกระทู้

[Hanako5]

 ดันกระทู้

[Chanapot]

ดันๆ

[dsmol19]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ